จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

นางพญาสิงโตแห่งทุ่งหญ้าเซเรนเกตี้ (Queen of the Beast of Serengeti)

ขอขอบคุณภาพจากgoogle.com

สารคดี PSI วันที่19มิย.2554
เก็บมาเล่าต่อโดย พิทยะ ศรีวัฒนสาร


สิงโตได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งหลายเพราะมีรูปกายที่ใหญ่โต กล้ามเนื้อแข็งแรง มีเขี้ยวและกรงเล็บคมกริบ มีสัญชาติญาณและมันสมองอันชาญฉลาดในการล่าเหยื่อเป็นฝูง

โดยปกติแล้วสิงโตตัวผู้ที่มีอายุประมาณ 4 ปีมักจะเป็นฝ่ายแย่งอำนาจและขับไล่จ่าฝูงตัวเดิมออกไปจากฝูง จากนั้นก็ครองอำนาจเป็นจ่าฝูงตัวใหม่ บางครั้งเมื่อตัวผู้มีอายุได้4ปีก็ต้องถูกขับไล่ออกไปเร่ร่อนหาตัวเมียนอกฝูงเพื่อผสมพันธุ์ บางครั้งก็ผูกมิตรกับตัวผู้เร่ร่อนอื่นๆ เพื่อการล่าสัตว์เป็นอาหาร บางโอกาสก็ร่วมมือกับตัวผู้อื่นเพื่อเกี้ยวพาราสีและผสมพันธุ์กับตัวเมียตัวเดียวกัน

เมื่อมีการขับไล่จ่าฝูงเดิมออกไป ตัวเมียมักจะหนีไปซ่อนกับลูกระยะหนึ่งและไม่พร้อมที่จะผสมพันธุ์กับจ่าฝูงตัวใหม่ จนกว่าจะเป็นสัดในอีก 1 ปี ทำให้จ่าฝูงตัวใหม่ต้องฆ่าลูกเก่าของตัวเมียทิ้ง หลังจากลูกเก่าตายภายใน 24 ชั่วโมง ตัวเมียก็จะเริ่มให้ท่าจ่าฝูงใหม่อย่างโจ่งแจ้งทันทีตลอดช่วง 2-3 เดือนแรกที่ตัวผู้นั้นดำรงตำแหน่งจ่าฝูงตัวใหม่อย่างประหลาด ทั้งนี้ก็เพื่อให้สถานภาพของตนมั่นคงในอีกอีก 2 ปีข้างหน้า

จ่าฝูงใหม่มีหน้าที่คุ้มครองตัวเมียจนครบ 3 เดือนให้พ้นจากการรบกวนของกลุ่มตัวผู้เร่ร่อนที่จะเข้ามารบกวน โดยการปัสสาวะตามชายขอบของอาณาเขต 60-140 ตารางกิโลเมตร เพื่อบอกแก่ตัวผู้เร่รอนเป็นทำนองว่า ห้ามเข้าเขตนี้มีเจ้าของแล้ว

เสือดาวไม่สามารถอยู่รวมกันเป็นกลุ่มได้ เนื่องจากมีความสามารถไม่เพียงพอในการหาอาหารมาแบ่งกัน ขณะที่สิงโตตัวผู้สามารถอยู่รวมกันได้ เพื่อปกป้องฝูงและหาอาหารร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลูกสาวของมัน สิงโตเพศผู้ไม่มีสิทธิ์ถาวรในฝูงของตน เพราะมันก็จะถูกขับออกไปภายใน 2-3 ปีข้างหน้าเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นจ่าฝูงเก่า สิทธิ์ในการสืบทอดเผ่าพันธุ์ในฝูงจึงเป็นของสิงโตตัวเมีย

เป็นที่น่าสังเกตว่า ท่าทางนั่งยงโย่ยงหยกของสิงโตตัวผู้ที่ถูกสิงโตที่มาใหม่รุมทำร้าย เพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูง มีลักษณะคล้ายกับท่านั่งของสิงห์ทวารบาลในโบราณสถานบางแห่งในศิลปะขอม/ เขมร

1 ความคิดเห็น:

  1. ความรู้เรื่องราชสีจริงๆ ค่ะ...... แล้วก็ส่งงานค่ะ =w=


    จันทนีย์ ประพันธ์องอาจ 511370216 (G.002)

    http://artandculturelism.blogspot.com/2011/08/blog-post.html

    ตอบลบ