จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553

จากบันทึกกิจกรรมงานแสดงรถโบราณที่สยามพารากอนครั้งที่32 วันที่21-25 พฤษภาคม 2551ถึงเทคนิคการปั่นจักรยานโบราณ

โดย พิทยะ ศรีวัฒนสาร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo เป็นอย่างยิ่ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 ผู้เขียนได้ไปชมการแสดงและประกวดรถโบราณซึ่งจัดโดยสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทยและรอยัล พารากอน ฮอลล์ ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทร่วมกันจัด “งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 32” (THE GLOSSY HERITAGE AWARDS 2008) ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันพุธที่ 21 – อาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม 2551 นับเป็นงานประกวดรถโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีรถโบราณ รถคลาสสิค และรถจักรยานยนต์โบราณเข้าประกวดและแสดงมากกว่า 180 คัน รวมมูลค่าถึง 360 ล้านบาท การจัดงานประกวดรถโบราณมีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 32 แล้ว และเป็นครั้งแรกที่ทางสมาคมฯ ได้ตั้งชื่อรางวัลว่า ” THE GLOSSY HERITAGE AWARDS” พร้อมสโลแกน “เกียรติยศรถโบราณ ศักดิ์ศรีงานบูรณะ” เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักอนุรักษ์ให้บูรณะและบำรุงรักษารถโบราณเพื่อเป็นมรดกที่ทรงคุณค่าของชาติสืบไป

งานประกวดรถโบราณ ครั้งที่ 32 มีความพิเศษและยิ่งใหญ่กว่าทุกปีด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกัน ประการแรก คืองานในปีนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ กับรอยัล พารากอน ฮอลล์ ผนึกกำลังกันจัดขึ้น อีกทั้งยังมีหน่วยงานที่สำคัญอีกหลายแห่งที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อาทิ กรมการขนส่งทางบก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด หอภาพยนตร์แห่งชาติ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยกระทรวงวัฒนธรรม ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาจักรยานยนต์โบราณไทยภายใต้มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และชมรมลิงน้อยสโมสร เป็นต้น ประการที่สอง คือ เป็นครั้งแรกที่จัดงานในสยามพารากอน ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ง่ายขึ้น และประการสุดท้าย จากความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ดังที่กล่าวเบื้องต้น ทำให้งานปีนี้มีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย และครบถ้วน อาทิ บริการจัดทำใบขับขี่รูปแบบใหม่ในงาน การถ่ายภาพบุคคลกับรถโบราณลงบนแสตมป์ส่วนตัว นิทรรศการการฉายภาพยนต์โบราณแบบ Drive-inTheater การวาดรูปเหมือนคู่กับรถโบราณ,นิทรรศการของสะสมหายากโดยไอสุริยสรวง สรรพสิ่งสะสมสถาน การประมูลรถโบราณ การประกวด Queen Concours D’Elegance งาน Vintage Dance 2008
งานแสดงรถยนต์โบราณที่สยามพารากอน2551-52




จักรยานโบราณล้อโต

สไตล์ดุดัน


รถจักรยานยนต์ยี่ห้อBMW โชว์ที่สยามพารากอน 2551-52 รุ่นนี้เมื่อครั้งที่พิทยะยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมที่อำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เคยเห็นครูเสถียร แสงกล้า และพี่ชายขับประจำ ทั้งอำเภอมีรถจักรยานยนต์BMWเพียง 2 คัน เท่านั้น

เวสป้า อาจเป็นรุ่น1964 พ่วงข้าง

งานแสดงรถโบราณสยามพารากอน 2551-52


งานแสดงรถโบราณสยามพารากอน 2551-52
คันนี้โชว์ในงานแสดงรถโบราณที่สยามพารากอน ประมาณปี2551-52



คันนี้เป็นรถมือสองจากญี่ปุ่น เจอที่ร้านขายจักยานมือสองที่อ.เมืองนครนายก ซื้อมาในราคา 5,500 บาท คล้ายรุ่นที่จิม แครีย์ปั่นในภาพยนตร์เรื่อง Trueman Show ปัญหาที่คาดไม่ถึงคือเมื่อยางในหมดสภาพแล้วอะไหล่หายาก ตอนนี้จึงจอดยางแบนอยู่ที่บ้าน

พิทยะเคยมีรถจักรยานโบราณอายุเกือบ60ปี ยี่ห้อแฮมเบิร์ก ของญี่ปุ่น ลักษณะคล้ายรถยี่ห้อสแตนดาร์ด(มี 2 คาน) ซึ่งผลิตในประเทศไทย รถคันนี้พิทยะซื้อโครง(ไม่มียาง บังโคลน อาน บังโซ่ เบรก บันได) มาจากเพื่อนลุงป่วน บ้านพะเนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ราคา 1, 000 บาท จากนั้นก็เอามาตัดตะแกรงท้ายให้เล็กและแต่งเพิ่มนิดๆหน่อยๆ หมดเงินไปประมาณ 1,500 บาท ปั่นสนุกมาก และปั่นไปไหนใครๆต่างก็พากันมอง เพราะการออกแบบที่ดูแข็งแรง สง่างาม ได้กำลังดีเหลือหลาย จึงปั่นอย่างเร็วในซอยที่บ้าน ปรากกฏว่ามีรถปิกอัพ ออกตัวจะแล่นเข้าถนนหลังโรงเรียนไผทอุดมศึกษา วิภาวดีรังสิต64 จึงเบรกอย่างแรง ผลก็คือเบรคชำรุด โชคดีไม่ได้ถูกรถคันนั้นชนเอา

รถรุ่นนี้หากเป็นของญี่ปุ่น แล้วแทบจะไม่มีราคาด้านการสะสมในวงการรถโบราณเลยทีเดียวจึงเหมาะสำหรับการปั่นเลยออกกำลังกายเท่านั้น ต่อมาพิทยะจึงขายต่อให้ร้านซ่อมจักรยานย่านตลาดปทุมธานี ตรงข้ามกับฟิวเจอร์ปาร์คในราคา 3,800 บาท ในอดีตรถจักรยานผู้ชายจะถูกใช้ในการบรรทุกข้าวของ บางครั้งรับน้ำหนักมากถึง300กิโลกรัม

จักรยานผู้ชาย ยี่ห้อฮัมเบิร์ก ญี่ปุ่นทำเลียนแบบจักรยานของเยอรมัน เวลาดูรถบรรดาเซียนชอบมาดูที่ตราตรงนี้ พอรู้ว่าเป็นของญี่ปุ่นก็ถอยออกไปรุ่นที่นิยมสะสมกันเป็นของยุโรป อังกฤษ เยอรมัน ฯลฯ เช่น ฟิลิป ฮัมเบอร์ ราเลย์ ฯลฯ
พิทยะเคยถามนักศึกษาจีนจากมหาวิทยาลัยแห่งชนชาติกวางสี มณฑลกวางสีว่า จักรยานโบราณมือสองที่จีนราคาคันลัเท่าไร ก็ได้รับคำตอบว่า คันละ 100 หยวน(500 บาท ) ราคาอย่างนี้หากมีเงินมากๆก็น่าลงทุนสั่งเข้ามาขายในไทยเป็นอย่างยิ่ง เพราะรถมือสองที่เคยเป็นของครูสอนศาสนาในจีนที่ถูกนำมาขายในไทยบางคันถูกตั้งราคาไว้สูงถึงคัน 7,000-10,000 เลยก็มี ขณะที่จักยานพับได้ในกรุงเทพฯขายคันละ3,000-3,500 บาท ที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ขายเพียงคันละ 1,500 บาทเท่านั้นเอง
พิทยะเคยเห็นนักปั่นจักรยานบางคนปั่นจักรยานมีเกียร์โดยใช้เกียร์สูง ทำให้ต้องปั่นด้วยจังหวะถี่ๆคล้ายปั่นอยู่กับที่ตลอดเวลาและการทรงตัวก็ไม่ค่อยดี แม้การปั่นเช่นนี้จะไม่ต้องใช้แรงมาก แต่ก็ส่งผลให้ผู้ปั่นปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นขาและข้อสะโพก เพราะต้องปั่นมากรอบกว่าปกติ เหมือนจักรยานหมุนล้อฟรีและออกตัวไปได้น้อยกว่าการใช้เกียร์ต่ำซึ่งแม้จะหนักแรงแบบจักรยานธรรมดา แต่ก็สามารถเคลื่อนตัวไปได้ระยะทางกว่ามากและทรงตัวได้ดีกว่า การปั่นจักรยานมีเกียร์ที่ดี จากประสบการณ์ส่วนตัว คือ ต้องมีการสลับใช้เกียร์อย่างผสมผสานกลมกลืนและเหมาะสม จึงจะไม่กินแรงผู้ปั่นมากเกินไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น